ทำความเข้าใจแค่ 3 เรื่องนี้ก็สามารถทำกำไรได้ต่อเนื่อง

บทเรียนครั้งนี้ขออนุญาตนำเสนอเป็นแบบกึ่งการเล่าเรื่องแทรกเทคนิคไปในตัวนะครับ ความจริงข้อหนึ่งที่แทบจะทุกคนที่เริ่มเข้าสู่วงการเทรดใหม่ๆ มักจะมุ่งไปที่เรื่องของสัญญาณอินดิเคเตอร์ต่างๆเป็นหลัก หลายๆคนติดอยู่ในกับดักนี้นานเป็นปีๆก็ยังวนเวียนอยู่ในวังวนของการค้นหาสัญญาณแม่นๆ (Holy Grail) อยู่ และ มีเทรดเดอร์บางส่วนที่เป็นส่วนน้อยที่เกิดอาการตาสว่างหลุดออกมาจากวังวนหรือกับดักเรื่องสัญญาณแม่นๆนี้ออกมาได้ ก็ถือว่าได้ก้าวข้ามบททดสอบแรกเพื่อเข้าสู่บททดสอบที่สองคือการบริหารจัดการต่างๆในงานเทรดซึ่งเป็นหัวใจสำคัญมากที่สุดของขบวนการทั้งหมดในงานเทรด แต่ในบทเรียนนี้จะขอข้ามเรื่องของการบริหารจัดการต่างๆ เราจะมาพูดถึงเรื่องของเทคนิคการเทรดด้านเทคนิคอล เพราะมันได้รับความสนใจมากที่สุดในวงการเทรดสำหรับมือใหม่

งานเทรดจริงๆแล้วเรื่องเทคนิคอลนี้มันมีเทคนิคมากมายจริงๆ มากจนสร้างความสับสนให้กับเทรดเดอร์มือใหม่เป็นอย่างมาก บางคนบอกสัญญาณนี้แม่น บางคนบอกใช้การเทรดแบบดู Pattern ซิมันแม่นกว่า ถ้าจะว่ากันแล้วความแม่นยำมันไม่ได้อยู่ที่เครื่องมือ หรือ เทคนิคใดๆเลย ทุกๆเทคนิคทุกเรื่องมือมันแม่นยำทั้งหมด ความแม่นยำมันขึ้นอยู่กับความเข้าใจในเครื่องมือหรือเทคนิคที่ใช้งานมากกว่า เช่นการใช้เส้นค่าเฉลี่ยสองเส้นตัดกัน บางคนใช้งานแล้วบอกว่ามันตัดกันช้ามาก แท่งราคาวิ่งผ่านไปตั้งหลายแท่งเส้นค่าเฉลี่ยมันพึ่งจะวิ่งตัดกันทำให้จุดที่มันตัดกันเกือบจะเป็นยอดดอยหรือก้นเหวอยู่แล้ว ซึ่งมันก็จริงเพราะเส้นค่าเฉลี่ยมันเป็นอินดิเคเตอร์ประเภท Lagging indicators คือต้องรอให้ราคาเคลื่อนไหวให้จบก่อนจึงจะแสดงสัญญาณออกมา

แต่นั้นไม่ใช่ปัญหาเพราะอะไรล่ะ ก็เพราะทำไมนับจากอดีตจนถึงปัจจุบันมืออาชีพทั่วโลกมากกว่า 90% ต่างก็ใช้เส้นค่าเฉลี่ยในการเทรดอยู่ล่ะ นั้นก็เพราะความเข้าใจในกลไกการใช้งานเส้นค่าเฉลี่ยมาเป็นอย่างดี คำตอบมันจึงไปอยู่ที่ความเข้าใจในบริบทของเครื่องมือที่ใช้จึงจะได้ความแม่นยำตามออกมา ไหนๆก็พูดถึงเส้นค่าเฉลี่ยสองเส้นตัดกันแล้วก็เล่าต่อก็แล้วกัน เนื่องจากคนส่วนใหญ่จะใจร้อนคือจะเน้นเอาจังหวะแรกที่เกิดสัญญาณเป็นหลักนี่คือวิธีคิดแบบมือสมัครเล่น แต่สำหรับมืออาชีพจะเน้นจังหวะสองเป็นหลัก เนื่องจากจังหวะสองมันเป็นการเฉลยของตลาดให้เห็นทิศทางที่ชัดเจน เพราะในตลาดมันเกิดสัญญาณหลอกมากมาย การรอจังหวะสองจึงลดอาการหลงทาง หรือ ความผิดพลาดลงไปได้มาก

ในกรณีของเส้นค่าเฉลี่ยสองเส้นตัดกันเมื่อเส้นสองเส้นมันตัดกันในบริเวณที่ราคาไปไกลมากแล้ว มืออาชีพจะรอให้ราคามันลงมาจากยอดดอยหรือขึ้นมาจากก้นเหวเสียก่อน เดี๋ยวราคามันก็ย้อนลงมาทดสอบที่เส้นค่า Period ต่ำก่อนเสมอ ตรงนี้ความห่างของระหว่างสองเส้นจะแคบลงมาแล้ว นั้นคือโซนที่เราจะหาโอกาสเข้าออเดอร์ตามเทรนด์หลักได้เป็นอย่างดี และ เป็นการใช้งานเส้นค่าเฉลี่ยสองเส้นตัดกันที่ได้ผลดีมาก เดี๋ยวจะหาเวลาเขียนเป็นบทเรียนเรื่องการใช้งานเส้นค่าเฉลี่ยให้อีกครั้ง ครั้งนี้เป็นการเกริ่นให้เห็นว่า หากต้องการความแม่นยำก็ต้องทำความเข้าใจในกลไกการใช้งานที่ถูกต้องของมันเสียก่อน โดยยึดตามวิธีคิดแบบมืออาชีพมาเป็นหลักในการใช้งาน

นอกเรื่องมานานแล้วขอนุญาตเข้าเรื่องตามที่โปรยหัวข้อเรื่องไว้ดีกว่า ทำความเข้าใจแค่ 3 เรื่องนี้ก็สามารถทำกำไรได้ต่อเนื่อง สำหรับท่านใดที่เข้ามาสู่วงการเทรดได้ซักระยะหนึ่งลองผิดลองถูกมาก็พอสมควร ตั้งหน้าตั้งตาพยายามปีนไปให้ถึงเทคนิคขั้นเทพแต่ก็ไปไม่ถึงซักที ไปเจอทางตันเพราะพื้นฐานความรู้ไม่แน่นพอจึงไม่สามารถต่อยอดไปถึงแก่นของเทคนิคนั้นๆได้สำเร็จ แต่หากเราตั้งสติได้และฉุกคิดจากที่เห็นได้ยินได้ฟังที่ว่า สูงสุดคืนสู่สามัญ มันเป็นคำกล่าวที่ใช้ได้กับทุกวงการ เพราะสุดท้ายสิ่งที่พยายามก้าวไปสู่จุดสูงสุดของงานแท้จริงแล้วมันอยู่ที่ความเข้าใจของแก่นหรือเนื้องานมันง่ายๆนี่เอง เพียงแต่เราอาจใจร้อนอยากหาทางลัด ก็เลยกลายเป็นเสียเวลาไปมาก

สำหรับงานเทรดจริงๆแล้วมันไม่ได้มีออะไรซับซ้อนเลย ตลาดมันก็เคลื่อนไหวไปตามความคิดของมนุษย์ที่เกิดจากการต้องการทำกำไรของเทรดเดอร์ในตลาด พฤติกรรมที่แสดงออกมาของกราฟราคามันจึงมีทั้งความเป็นทิศทางที่แข็งแรง ความผันผวนที่รุนแรง และ การพักตัวรอจังหวะ ในรูปแบบทั้งหมดความเป็นทิศทางที่แข็งแรงหรือที่เรียกว่าเทรนด์ที่แข็งแรงมันคือโอกาสที่ดีที่สุดของการเข้าเทรดทำกำไร แต่มันมีโอกาสเกิดขึ้นเพียงสูงสุดไม่เกิน 30% ของเวลาทั้งหมดในตลาด หากต้องการทำกำไรที่ปลอดภัยก็จำเป็นต้องรอใจร้อนเมื่อไหร่โอกาสพลาดจะสูงมาก

ดังคำกล่าวที่ว่า ใครมองเห็นเทรนด์คนนั้นมองเห็นกำไร เป็นคำกล่าวที่เป็นสัจธรรมมากมันคือหลักความจริง

3 ความเข้าใจสู่การทำกำไรที่ยั่งยืน

ในเบื้องต้นเอาแค่การไม่หลงทางก่อน หากมองเห็นและทำตรงนี้ได้ ค่อยเอาเรื่องการบริหารจัดการมาใส่ คราวนี้จะเป็นความยั่งยืนของแท้ สำหรับสูตรสำเร็จของงานเทรดที่ใช้ได้ผลเสมอ แบบไม่ต้องหลงทาง ไม่คิดมากว่าจะใช้สัญญาณอะไรบ้าง หากเราเข้าใจ 3 ข้อนี้ได้ เราจะสามารถใช้เครื่องมืออะไรก็ได้ โดยไม่มีอาการกังวล หรือ ลังเลว่าจะใช้เครื่องมือไหนเทรดดี ?

1. เข้าใจเรื่องของการเลือกใช้ไทม์เฟรมในการเทรด หากตอบตัวเองได้ว่าทำไมเราถึงใช้ไทม์เฟรมนี้วางแผน และ ทำไมเราถึงใช้ไทม์เฟรมนี้เข้าออเดอร์ และ ไทม์เฟรมที่ใช้มันเหมาะสมกับเงินทุนในพอร์ตเราหรือไม่ หากสามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้แสดงว่าท่านได้ผ่านเรื่องไทม์เฟรมได้แล้ว ไทม์เฟรมมันเป็นด่านแรกสุดที่ต้องเลือกให้ถูกต้อง มันเหมือนการกลัดเม็ดกระดุม เราต้องกลัดให้ถูกต้องตั้งแต่เม็ดแรก หากเข้าใจเรื่องของไทม์เฟรมผิดพลาด มันก็จะเกิดความผิดพลาดไปทุกขั้นตอนที่เหลือ หลายๆคนยังเข้าใจผิดอย่างมากที่นึกว่าเงินทุนน้อยๆ ก็ต้องเทรดไทม์เฟรมเล็กๆ เพื่อเก็บกำไรสั้นๆ แต่ลืมไปว่าระยะทำกำไรสั้นๆมันต้องเปิด Lot ที่ใหญ่ขึ้นเพื่อให้ได้ตัวเลขกำไรที่มากพอ เรื่องเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ต้องคิดให้รอบคอบ พยายามมองถึงกลไกการสร้างความได้เปรียบของการทำกำไรที่สูงบนความเสี่ยงที่ต่ำ นี่คือหลักคิดของนักลงทุน

2. มองเทรนด์หลักและเทรนด์ย่อยออก โดยตอบคำถามตัวเองได้ว่าตอนนี้เทรนด์หลักของตลาดเป็นฝั่งไหน เพราะการเทรดตามเทรนด์มันคือการลดความผิดพลาดลงไปได้มาก เพราะเราอาศัยการเกาะไปกับแรงหลักของตลาดที่เคลื่อนตัวได้แรงและไปได้ไกล เป็นการสร้างความได้เปรียบในการทำกำไรอีกแบบหนึ่ง

3. มองการย่อตัวของราคาสวนเทรนด์หลักออก เพื่อรอหาจุดเข้าออเดอร์ในจังหวะ ที่ราคาย่อตัวสวนเทรนด์ เราจะได้เห็นการที่ ราคาวิ่งหนี Stop loss เรื่องของ Stop loss สำคัญมากอย่ามองว่ามันคือการขาดทุนเพียงแง่มุมเดียว แต่มันคือกำไรของอนาคต หากวันนี้เราไม่ให้ความสำคัญกับ Stop loss อนาคตเราอาจไปไม่ถึง

จะเห็นได้ว่า 3 เรื่องข้างต้นที่กล่าวมานั้นมันคือการเน้นถึงความเข้าใจ ไม่ได้ไปเกี่ยวกับการเลือกใช้สัญญาณใดๆเลย หากเราเข้าใจ 3 เรื่องข้างต้นได้คราวนี้ไม่ว่าจะใช้เทคนิคไหน สัญญาณอะไรมันก็ล้วนแต่ได้ผลทั้งนั้น ทั้ง 3 เรื่องนี้มันก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลย มันเป็นพื้นฐานที่เทรดเดอร์มือใหม่มักจะมองข้าม เรื่องจากมันไม่ได้ไปแสดงเรื่องเส้นสัญญาณต่างๆเลยดูไม่เร้าใจ ดูน่าเบื่อหน่าย ก็เหมือนๆกับเรื่องการบริหารจัดการนั้นแหละครับที่ เทรเดอร์ส่วนใหญ่มักจะง่วงนอนขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินได้ฟังเรื่องพวกนี้

และทิ้งท้ายฝากให้คิดด้วยหลักคิดที่ควรนึกถึงเสมอนึกถึงให้บ่อยๆว่า “สิ่งที่เรากำลังทำอยู่นี่มืออาชีพเค้าจะทำแบบเราหรือไม่” และ “ไม่มีความสำเร็จที่แท้จริงใดๆที่ได้มาจากวิธีคิดแบบมือสมัครเล่น” และ “เทคนิคที่ดีที่สุดต้องเป็นเทคนิคที่เราถนัดเท่านั้นไม่จำเป็นต้องไปเลียนแบบใคร

ความแม่นยำในการเข้าออเดอร์ก็ขึ้นอยู่กับ “หากรอได้ก็แม่นยำ”

ศึกษาเรื่องการใช้งานไทม์เฟรมให้เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของตนเอง
https://sniper3.com/9tf

ศึกษาพื้นฐานเรื่องโครงสร้างของตลาด
https://sniper3.com/bms

ศึกษาตัวอย่างการเทรดแบบง่ายๆแบบตามเทรนด์
https://sniper3.com/sniper-trading-strategy/

ศึกษาตัวอย่างการเทรดแบบง่ายๆแบบตามเทรนด์
https://sniper3.com/sniper1

เทคนิคการใช้พฤติกรรมของราคามาประยุกต์ใช้งานในการเทรด
https://sniper3.com/plan

และบทเรียนในเชิงลึกอื่นๆ อีกมากค่อยๆไล่ศึกษาได้ครับ

https://sniper3.com/3step

Login เพื่ออ่านต่อ...

เนื้อหาทั้งหมดของบทเรียนนี้ ทั้งบทความ ,วีดิโอ ,ไฟล์ PDF เข้าดูได้เฉพาะสมาชิกของ Sniper-III+คอร์ส เท่านั้น โดยการ Login เข้าสู่ระบบเพื่อเข้าห้องเรียนในบทต่างๆ

หากยังไม่เป็นสมาชิก

คลิ๊กที่นี่เพื่อสมัครเข้าคอร์สเรียนพร้อมรับระบบเทรด Sniper-III

Existing Users Log In