สัญญาณ Divergence

สัญญาณ Divergence เป็นพฤติกรรมที่มักจะเกิดขึ้นโดยแสดงให้เห็นผ่านหน้าจอของโปรแกรมเทรดต่างๆ โดยมีจุดสังเกตุหลักคือการสังเกตุทิศทางของสัญญาณอินดิเคเตอร์ (Indicator) ต่างๆเช่น RSI ,MACD หรืออื่นๆ กลับวิ่งสวนทางกับทิศทางของกราฟราคา นี่คือลักษณะของการเกิดสัญญาณ  Divergence ซึ่งโดยปกติทิศทางของกราฟราคาหรือกราฟแท่งเทียน และ ทิศทางของสัญญาณอินดิเคเตอร์ จะต้องไปในทิศทางเดียวกัน (Convergence) แต่อยู่ๆทิศทางของสัญญาณอินดิเคเตอร์กลับวิ่งสวนทางทิศทางของกราฟราคา ซึ่งมักเกิดในช่วงสั้นๆ และมักจะเกิดในช่วงปลายของเทรนด์สำหรับ Regular Divergence และเกิดได้ระหว่างเทรนด์สำหรับ Hidden Divergence สัญญาณ Divergence จะเป็นตัวช่วยยืนยันหรือสัญญาณเตือนว่าราคาอาจมีโอกาสวิ่งแรงๆ ในทิศทางใดทิศทางหนึ่งตามลักษณะของ Divergence ในบทเรียนครั้งนี้เราจะได้เรียนรู้ที่มาหรือสาเหตุของการเกิดสัญญาณ Divergence ประเภทต่างๆ เพื่อจะได้เข้าใจหลักการ และ สามารถนำไปใช้งานได้ง่ายสะดวกยิ่งขึ้น เป็นวิธีการนำเสนอที่ท่านจะเข้าใจเรื่องของการใช้งานสัญญาณ Divergence ได้อย่างง่ายดาย

ถ้าจะนับเทคนิคการใช้งานอินดิเคเตอร์ของมืออาชีพแล้ว 90% มืออาชีพจะใช้อินดิเคเตอร์ในการดูการเกิดสัญญาณ Divergence เป็นหลัก รองลงมาก็จะเป็นการดู Volume หรือ Momentum ถ้าจำเป็น ถือว่าเป็นการใช้งานอินดิเคเตอร์ที่เหมาะสมกับงานและได้ประสิทธิภาพของการใช้งานอินดิเคเตอร์มากที่สุด สุดท้ายที่ต้องเอาเรื่องของสัญญาณ Divergence มากล่าวในหัวข้อ 3-Zone & Pattern นี้ก็เพราะมีส่วนที่ไปเกี่ยวข้องกับ Demand และ Supply

ทำความเข้าใจการเกิดสัญญาณ Divergence

*** สัญญาณ Divergence เป็นสัญญาณที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ และ บ่อยครั้งมากที่พบว่าเมื่อเกิดรูปแบบสัญญาณ Divergence แล้วทิศทางของราคามันไม่ได้เป็นไปตามที่อ่านตำรามา เช่นเกิด Regular Bullish Divergence ตามตำราบอกว่าราคาจะเกิดการกลับตัวจากเทรนด์ขาลงไปเป็นเทรนด์ขาขึ้น แต่ปรากฎว่าราคามันกลับตัวสั้นๆแล้วลงไปต่อ นั้นหมายถึงมันเกิด Divergence แค่การย่อตัวขึ้นของราคาสั้นๆเพื่อลงไปต่อ

ดังนั้นการใช้งานสัญญาณ Divergence เราจำเป็นต้องเข้าใจในบริบทของมันให้ดี และ ต้องใช้ Divergence เป็นตัวประกอบกับการวิเคราะห์ในเชิงของโครงสร้างราคาของตลาด หรือ โซนราคาสำคัญๆ เช่น Demand หรือ Supply ที่มีนัยยะมีความสดใหม่ของโซน แล้วเราจะการดูสัญญาณ Divergence เข้าไปร่วมยืนยันการกลับตัวของราคา หรือ ใช้ยืนยันการไปต่อของราคาในกรณ๊ที่เกิดรูปแบบ Hidden Divergence

หากเราใช้สัญญาณ Divergence โดยไม่เข้าใจในบริบทของมันจะกลายเป็นโดนกราฟหลอกส่งผลเสียต่องานเทรดได้ ในทางปฎิบัติเราควรเน้นการเทรดในรูปแบบที่ง่ายที่สุด ใช้สัญญาณน้อยที่สุด เลือกเอาเฉพาะเครื่องมือที่เราถนัดที่สุดก่อน เลือกเทคนิคที่มีลำดับความสำคัญสูงเป็นหลัก เช่น โครงสร้างของกราฟราคา การใช้เส้นเทรนด์ไลน์ การใช้ฟิโบนัชชี แค่ 3 เครื่องมือนี้ก็สามารถทำกำไรแบบสบายๆได้แล้ว

แต่หากเราเลือกใช้สัญญาณเพิ่มเข้าไปมากเท่าไหร่ยิ่งมีความเสี่ยงที่สูงขึ้น ยิ่งไม่เข้าใจหรือไม่ถนัดสัญญาณที่เพิ่มเข้าไปยิ่งเป็นผลเสียต่องานเทรดมากขึ้น แทนที่จะเป็นผลดี กลับกลายเป็นการเพิ่มความสับสนมากขึ้น เป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเทรดโดยไม่รู้ตัว เพราะสำคัญผิดว่ายิ่งใช้สัญญาณมากยิ่งมีโอกาสทำกำไร บางท่านเน้นใช้อินดิเคเตอร์เพียวๆในการเข้าออเดอร์อันนั้นยิ่งมีโอกาสผิดพลาดสูงหากตลาดไม่เป็นเทรนด์ที่แข็งแรง อินดิเคเตอร์มันจะหลอกบ่อยมากๆ อินดิเคเตอร์ทุกๆตัวมันจะแม่นยำเมื่อตลาดเป็นเทรนด์ และที่สำคัญอินดิเคเตอร์มันให้สัญญาณที่ช้ากว่าตลาดจริง กราฟราคาคือตัวที่เร็วที่สุดตรงที่สุด

ดังนั้นการใช้งานสัญญาณ Divergence ในการเทรดจำเป็นต้องเข้าใจในโครงสร้างของราคา และ โซนที่มีนัยยะสำคัญให้ดีก่อน แล้วค่อยใช้สัญญาณ Divergence เข้าไปช่วยยืนยันทิศทางของราคา ยิ่งการใช้สัญญาณ Divergence จากเครื่องมืออัตโนมัติทั้งหลายนั้นบวกกับความไม่เข้าใจโครงสร้างของราคายิ่งส่งผลเสียเป็นอย่างมากเพราะโอกาสจะโดนกราฟหรือสัญยาณ Divergence หลอกจะมีสูงมาก ***

ภาพรวมของรูปแบบ Divergence ที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ส่วนรายละเอียดในการแยกแยะประเภทของสัญญาณ Divergence สามารถ Login เข้าศึกษาได้จากเนื้อหาในคอร์สเรียนนี้ได้โดยตรง