เทรดง่ายๆแต่ได้ผล ด้วยเส้นเทรนด์ไลน์

ความเป็นจริงแล้วงานเทรดไม่ได้ยากหรือมีอะไรที่ซับซ้อนเลย กราฟราคาที่เห็นมันก่อตัวขึ้นจากความโลภ ความกลัว ความตื่นตระหนก ของผู้คนจำนวนมากในตลาดเทรด และ สภาพเศรษฐกิจระหว่างประเทศ มันเป็นพฤติกรรมธรรมชาติของมนุษย์ที่สะท้อนออกมาผ่านกราฟราคา ทุกๆคนก็อยากรู้ล่วงหน้าว่าราคามันจะวิ่งไปทางไหน เพื่อจะได้เข้าออเดอร์ได้แม่นยำและทำกำไรได้ สิ่งแรกที่เทรดเดอร์วิ่งเข้าหาก็คือหาเครื่องมือช่วยงานโดยเฉพาะพวกอินดิเคเตอร์ต่างๆ โดยหวังว่ามันจะช่วยให้งานเทรดง่ายขึ้น แต่กลับพบว่ามันแม่นยำอยู่แป๊บเดียวก็ไม่แม่นยำอีกแล้ว นั้นเป็นเพราะไม่เข้าใจการใช้งานอินดิเคเตอร์ที่ถูกต้อง ก็ไล่หาอินดิเคเตอร์ตัวใหม่ๆมาใช้งานไปเรื่อยๆ บางครั้งต้องใช้อินดิเคเตอร์หลายๆตัวมาใช้งานร่วมกันโดยหวังว่าจะช่วยยืนยันระหว่างกัน กลายเป็นความสับสน และ ยุ่งยากในการเทรดเพิ่มขึ้นมาอีก เมื่อเราไปคาดคั้นตั้งความหวังเพื่อหาความแม่นยำเป็นหลัก แต่เลยหาความแม่นยำที่ถูกใจจริงๆไม่เจอ สุดท้ายเลยดูเหมือนว่างานเทรดมันช่างยุ่งยากเสียจริง

หากเราหันกลับมามองเทรดเดอร์อีกกลุ่มที่มุ่งเน้นรูปแบบการเทรดที่เรียบง่าย และ เน้นการวิเคราะห์เชิงพฤติกรรมของกราฟราคาเป็นหลัก ซึ่งนั้นมันคือวิธีที่ตรงที่สุดแล้ว เพราะกราฟราคามันสะท้อนความจริงของตลาดได้ชัดเจน ตรงไปตรงมาก และ เร็วที่สุด จะพบว่ารูปแบบการเทรดมันไม่ต้องมีเครื่องมืออะไรมากมายเลย ตำราเทรดที่มีมาร้อยปีแล้วต่างก็เขียนเรื่องแนวรับแนวต้านเป็นหัวใจหลักของงานเทรด สมันนั้นมองเป็นแบบเส้นแนวนอน และ เทรนด์ไลน์เป็นหลัก ต่อมาก็มีการพัฒนาเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ขึ้นมาเพื่อให้ใช้งานได้ง่าย และ มีความยืดหยุ่นในการวิเคราะห์ได้ดีกว่าเส้นแนวนอน เพราะเส้นค่าเฉลี่ยมันสามารถวิ่งไปกับราคาได้ จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

ทั้งเส้นแนวนอน เส้นเทรนด์ไลน์ และ เส้นค่าเฉลี่ย มันก็คือเส้นทำหน้าที่เป็นแนวรับแนวต้านนั้นเอง แล้วแต่ว่าผู้ใช้งานจะเอามาใช้งานให้เข้ากับสไตล์การเทรดแบบไหน ซึ่งเราก็ต้องทำความเข้าใจจุดเด่นของแต่ละแบบว่าควรจะใช้งานในสถานการณ์ไหนบ้างจึงจะได้ผลดี ในบทเรียนครั้งนี้เราจะมาเรียนรู้กันว่า จะใช้งานแนวรับ แนวต้าน ให้ได้ผลดีจะทำอย่างไร และ ทำไมเส้นเทรนด์ไลน์จึงถูกนิยมนำมาใช้งานกันเป็นอย่างมาก มันดีอย่างไร