เส้นทางลัดสำหรับมือใหม่
ทางลัดที่ได้ผลและเร็วที่สุดสำหรับงานเทรดหรือแม้แต่อาชีพต่างๆก็คือ การเรียนรู้ตามลำดับขั้นจากง่ายไปยาก ค่อยๆไปอย่างเป็นระบบ มันก็เหมือนการเรียนผ่าตามลำดับชั้นเรียน แต่หากเราลัดขั้นตอนไปมา พอใจร้อนอยากลัดขั้นตอนไปศึกษาขั้นสูง แต่พื้นฐานไม่เอื้อก็ไปไม่รอดเสียเวลาไปเปล่าๆยิ่งช้าไปอีก เพราะความเร่งรีบใจร้อน ต้องอย่าลืมสัจธรรมข้อหนึ่งคือ ไม่มีความสำเร็จใดจะได้มาจากวิธีคิดแบบมือสมัครเล่น ความสำเร็จในทุกๆเรื่องต้องมาจากการใช้วิธีคิดแบบมืออาชีพเท่านั้น
ปัญหาของเทรดเดอร์มือใหม่
1. อยากได้เครื่องมือที่แม่นยำเพื่อเอามาใช้เทรดทำกำไร ในวงการเทรดมันไม่มีเครื่องมือวิเศษใดๆที่จะบอก Buy บอก Sell แล้วเทรดทำกำไรได้แบบง่ายๆ หากมันมีจริงโลกใบนี้คงไม่มีตำราขายดีเกี่ยวกับงานเทรดวางใน Amazon และร้านหนังสือชั่นนำทั่วโลก และคงไม่มีสถาบันเปิดสอนเทรดให้เห็น เพราะแค่ใช้เครื่องมือวิเศษแค่กด Buy หรือ Sell ตามสัญญาณก็รวยแล้ว
หลายๆคนเข้ามาในวงการนี้มานานหลายปีก็ยังมีชุดวิธีคิดที่ยังคิดว่าต้องหาเครื่องมือวิเศษมาใช้ให้ได้ ทำให้ละเลยที่จะค้นคว้าศึกษาพื้นฐานและแก่นแท้ของงานเทรดจริงๆจังๆ ส่งผลให้เสียเวลาหลายๆไป เสียเงินเติมเข้าพอร์ตมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ยังวนเวียนอยู่กับความผิดพลาดเดิมๆอยู่ ด้วยความเชื่อเดิม
บางคนก็ยังวนเวียนอยู่กับสัญญาณแจ้งเตือน กะว่าพอสัญญาณมาปุ๊บก็จะเข้าเทรดปั๊บ งานเทรดมันไม่ได้จำเป็นต้องไปรีบเร่งเทรดใดๆเลย โอกาสมันไม่เคยหมด เรามีเวลาวางแผนการเข้าเทรดให้รอบคอบ มองรอบด้าน โอกาสจะพลาดก็จะลดลงไปมาก เลือกเทรดในช่วงที่ตลาดเคลื่อนไหวแรงเพื่อหาความชัดเจนของทิศทาง ทำให้เทรดได้ง่ายขึ้นมาก เช่นเวลา 15.00 น. ถึง 23.00 น. สำหรับคู่เงินที่ผูกกับ EUR หรือ GBP และ 20.00 น. ถึง 04.00 น. สำหรับคู่เงินที่ผูกกับ USD และ ทองคำ เป็นต้น
2. ไม่สนใจการบริหารเงินทุน และ ความเสี่ยง ซึ่งมันคือหัวใจสำคัญของกลไกการทำกำไรที่ยั่งยืน หากจะว่ากันตามหลักการของการลงทุนที่ดีจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องควบคุมความเสี่ยงที่จะขาดทุนให้ได้มากที่สุด เมื่อไหร่ก็ตามหากเราใช้ความเสี่ยงที่สูง หรือ ไม่ใช้การจำกัดความเสี่ยงเลย มันก็คือการพนันดีๆนี่เอง
ความจริงแล้วการคำนวณความเสี่ยงมันไม่ได้มีอะไรยุ่งยากเลย เป็นการคำนวณที่ง่ายสุดๆเด็กประถมปลายก็คำนวณได้แล้ว แต่เมื่อใจเราไม่ได้สนใจ หรือมีอคติกับตัวเลขก็เลยกลายเป็นเทรดแล้วล้างพอร์ตจนนับครั้งไม่ถ้วน เอาง่ายๆสมมุติมีทุน $100 ยอมใช้ความเสี่ยง 1% ในการเทรดแต่ละออเดอร์ คิดแบบตัวเลขกลมๆเราจะสามารถเทรดพลาดได้ถึง 100 ครั้ง จึงจะล้างพอร์ตที่ $100 (หักค่าธรรมเนียมต่างๆก็ประมาณไม่ต่ำกว่า 90 ครั้งขึ้นไป)
แต่มีคนส่วนน้อยเท่านั้นที่ใช้กฎของการควบคุมความเสี่ยงแบบนี้ เพราะมันต้องรอจังหวะที่ดีจริงๆเพื่อให้ได้ระยะ SL ของความเสี่ยง 1% มีความปลอดภัย ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลย ก็แค่รอโอกาสเท่านั้น แต่ที่ทำไม่ได้กันเพราะใจร้อน ตัวใจร้อนนี่แหละคือตัวปัญหาหลักของงานเทรด หากเราไม่ใช้การจำกัดความเสี่ยงในการเทรด เงินทุน $100 อาจหมดไปแค่เทรดไม่ถึง 5 ออเดอร์ก็เป็นไปได้มาก
3. ใช้กฎของ Risk and Reward หรือ ที่เรียกย่อๆว่า RR ในการสร้างความได้เปรียบของการทำกำไร ตัวอย่างเช่น เทรด 10 ออเดอร์ หากพลาดจะยอมเสีย $1 แต่หากได้กำไรจะทำกำไรที่ $2 นั้นคือการใช้ RR ที่สัดส่วน 1:2 นั้นเอง หากเทรดพลาด 5 ออเดอร์ ก็เสียได้ $5 และ เทรดชนะ 5 ออเดอร์ก็จะได้กำไร $10 จะเห็นได้ว่าขนาดเทรดแพ้ 50% ชนะ 50% ก็ยังมีกำไรตั้ง $5
ลองคิดดูว่าหากทุน $100 โอกาสที่จะเทรดแพ้ถึง 90 ครั้งมันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ หากเราควบคุมความเสี่ยงได้ดีและทำตามกฎของ RR โอกาสที่เราจะล้างพอร์ตมีน้อยมากๆ
การใช้กฎของ RR ในการเทรดจะเป็นตัวตอบคำถามหรือข้อสัยเรื่อง Winrate ได้เป็นอย่างดีสำหรับคนที่ยึดติดเรื่องของ Winrate ต้องมากจ้องสวยหรู่ ถึงจะทำกำไรได้ จริงๆแล้วค่า Winrate มันเป็นแค่ผลพลอยได้ มันไม่ใช่หัวใจหลักของการทำกำไรตรงๆ เพราะงานงานเทรดโอกาสพลาดมันมีเสมอและมีบ่อยๆเสียด้วย ขาดมืออาชีพบางคนยังใช้ Winrate แค่ 50% เท่านั้น
4. มองข้ามเครื่องมือพื้นฐาน เพราะคิดว่ามันทำกำไรไม่ได้ ต้องใช้สัญญาณที่ Non Repaint เท่านั้นมันจึงจะสามารถทำกำไรได้ นี่คือเรื่องจริงที่หลายๆคนหรือคนจำนวนมากที่ไม่เคยใส่ใจเครื่องมือพื้นฐานที่ใกล้ตัว เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ หรือ RSI หรือ MACD หรือ Stochastic หรือเครื่องมืออื่นๆที่มีให้ใช้ฟรีๆ สัญญาณพวกนี้มันไม่ได้เป็นแบบ Non Repaint เลย แต่หากเปิดใจไปศึกษาประวัติของเทรดเดอร์มืออาชีพระดับโลกพวกเข้าต่างก็ใช้เครื่องมือพื้นฐานเหล่านี้ในการทำกำไรกันทั้งนั้น เพราะความแม่นยำมันไม่ได้อยู่ที่เครื่องมือ แต่มันอยู่ที่ทักษะการใช้เครื่องมือของแต่ละคนมากกว่า
เมื่อเราไม่ยอมเปิดใจที่จะฝึกใช้เครื่องมือตัวใดตัวหนึ่งให้รู้จริง ใช้งานจริงๆจังๆ เช่น เส้นค่าเฉลี่ย เครื่องมือนี้แหละตัวทำเงินให้มืออาชีพทั่วโลก แม้แต่สำนักวิเคราะห์กราฟต่างๆทั่วโลกก็ใช้เส้นค่าเฉลี่ยในการวิเคราะห์ แต่มีคนส่วนน้อยมากที่ใช้เส้นค่าเฉลี่ยแล้วทำกำไรได้ คนส่วนใหญ่ไม่ได้ตั้งใจศึกษาการใช้งานเส้นค่าเฉลี่ยจริงๆจังๆ พอใช้แล้วเทรดพลาดก็บอกว่าไม่แม่น ก็เปลี่ยนไปใช้เครื่องมืออื่นๆไปเรื่อยๆ ผลก็คือเวลาผ่านไปกี่ปีๆก็ยังวนเวียนหาเครื่องมือแม่นๆอยู่
ลองนึกถึงเทรดเดอร์ที่เทรดทำกำไรแบบกราฟเปล่าดูซิ ทำไมพวกเขาถึงเทรดแค่กราฟเปล่าแล้วทำกำไรได้ นั้นเพราะพวกเขามีทักษะในการเทรดกราฟเปล่าโดยเฉพาะ ซึ่งได้ทักษะจากการศึกษาและใช้งานแบบกราฟเปล่ามาต่อเนื่องยาวนานนั้นเอง ดังนั้นอย่าไปยึดติดที่เครื่องมือต่างๆมากเกินไป ทุกๆเครื่องมือมันล้วนทำกำไรให้เราได้ทั้งนั้นหากเรามีทักษะในการใช้งานมันจริงๆ ไม่จำเป็นต้อง Non Repaint เลย
5. ไม่มีแผนการเทรดที่แน่นอนตายตัว หรือจะเรียกว่าเทรดไม่มีระบบแบบแผน เช่นจะเข้าออเดอร์จะต้องมีสัญญาณยืนยันตามเงื่อนไขที่วาง 1-2-3-4-5 หากไม่ครบเงื่อนไขก็ไม่เทรด เมื่อเข้าออเดอร์แล้วต้องวางแผนจำกัดความเสี่ยงตามระบบที่คำนวณไว้ และ ใช้ระยะการทำกำไรตามที่วางแผนไว้เท่านั้น ซึ่งวิธีการแบบนี้มันก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลย แค่ทำตามกระดาษที่เขียนไว้แค่นั้น แต่ที่ไม่ชอบทำกันเพราะขาดความมีวินัย ชอบทำแบบสบายๆตามใจอยาก ผลการเทรดจึงออกมาแย่ และมักจะจบด้วยการใช้อารมณ์ในการเทรด พอได้กำไรติดๆก็เริ่งเทรดเพิ่มขึ้นมากๆเพราะอยากได้กำไรมากๆ พอเทรดพลาดมากๆก็เทรดเพิ่มมากขึ้นเพราะต้องการเอาทุนคืน สุดท้ายก็ล้างพอร์ตอยู่ดี เพราะการใช้อารมณ์และความโลภในการเทรด
จาก 5 ข้อที่กล่าวมาหากเราทำความเข้าใจอย่างจริงๆจังๆและเปิดใจยอมรับถึงความสำคัญของเหตุผลทั้ง 5 ข้อ มันคือทางลัดเข้าสู่ความสำเร็จที่รวดเร็ว ไม่เสียเวลาเนิ่นนานเลย อย่าลืมว่าการลงทุนที่ดีคือการสะสมกำไร อะไรก็ตามที่ได้กำไรมากๆในเวลาสั้นๆมันย่อมมีความเสี่ยงที่จะขาดทุนสูงแฝงอยู่ในนั้นเสมอ ไม่มีการลงทุนใดที่ได้กำไรมากๆในเวลาสั้นๆบนความเสี่ยงต่ำ มันไม่มีจริงๆ ขนาดซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ลงทุน 100 บาท มีโอกาสทำกำไร 6 ล้าน ใน 15-16 วัน มันยังมีความเสี่ยงสูงมากที่จะเสียเงิน 100 บาท
ทักษะ+การบริหารจัดการ=กำไร
https://sniper3.com/howto
Login เพื่ออ่านต่อ...
เนื้อหาทั้งหมดของบทเรียนนี้ ทั้งบทความ ,วีดิโอ ,ไฟล์ PDF เข้าดูได้เฉพาะสมาชิกของ Sniper-III+คอร์ส เท่านั้น โดยการ Login เข้าสู่ระบบเพื่อเข้าห้องเรียนในบทต่างๆ
หากยังไม่เป็นสมาชิก
คลิ๊กที่นี่เพื่อสมัครเข้าคอร์สเรียนพร้อมรับระบบเทรด Sniper-III