ทำกำไรด้วยสัญญาณ Non Repaint
ทำกำไรด้วยสัญญาณ Non Repaint เชื่อว่าเทรดเดอร์มือใหม่ส่วนใหญ่มักจะทุ่มเทเวลาในการหาเครื่องมือหรือ สัญญาณ ที่มีการทำงานเป็นแบบ Non Repaint เพราะมันได้ยินได้ฟังได้อ่านว่ามันมีความแม่นยำมากที่สุด เมื่อมันมีความแม่นยำมันก็ต้องสามารถทำกำไรในการเทรดได้เป็นอย่างดี นั้นคือการมองโลกสวยในด้านเดียว และ สะท้อนถึงการยังไม่เข้าใจตลาดเทรดโดยแท้จริง คนส่วนใหญ่มักจะชอบเจาะลงไปในจุดที่เป็นปลายทางคือกำไร แต่มักจะไม่สนใจต้นทางว่า ก่อนจะเป็นกำไรนั้นจะต้องทำอย่างไรบ้างจึงจะไปสู่การทำกำไรจริงๆ การหาทางลัดแบบนี้มันจึงนำพามาซึ่งความมักง่ายและห่างไกลความละเอียดรอบคอบ
ก่อนที่จะเจาะลงในรายละเอียดของสัญญาณแบบ Non Repaint ขออนุญาตพูดถึงเรื่องลำดับความสำคัญของงานเทรดกันก่อน สิ่งแรกที่เราต้องทำความเข้าใจในเบื้องต้นคือ “ตลาด” เทรดเดอร์มือใหม่มักจะมองตลาดเทรดว่าเป็นตลาดแบบตายตัว (Static Market) ราคาจะวิ่งไปแล้วก็จะมีพฤติกรรมที่ซ้ำๆเดิมๆที่สามารถจดจำมาใช้เทรดได้ แต่โดยแท้จริงแล้วตลาดมันไม่ได้เชื่องและต้องไม่จำเป็นต้องทำรูปแบบซ้ำๆเสมอไป เพราะตลาดมันดิ้นได้เปลี่ยนแปลงไปตามปัจจัยแวดล้อมต่างๆ (Dynamic Market) เพราะการขึ้นๆลงๆของราคามันถูกกำหนดมาจากปัจจัยแวดล้อมมากมาย ทั้งเรื่องของความโลภของเทรดเดอร์ ความตื่นตระหนกของเทรดเดอร์ ดุลการค้าระหว่างประเทศ อัตราเงินเฟ้อของแต่ละประเทศ มันเกี่ยวโยงกันทั้งหมด เพราะตลาดที่เราเทรดมันไปเกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ การอ่อนค่า แข็งค่าของสกุลเงินหลักๆของโลกจึงมีผลต่อทิศทางของราคาโดยตรง
ในการเทรดที่มีประสิทธิภาพเราต้องเข้าใจกลไกของตลาดให้ดีก่อน และ ตามมาด้วยการเข้าใจในสินค้าที่เทรด เพราะสินค้าแต่ละตัวมันจะมีพฤติกรรมเฉพาะตัวของมัน หากสังเกตุดีๆจะเห็นพฤติกรรมของค่าเงินฟรังก์สวิส (CHF) จะไม่เหมือนเงินยูโร (EUR) คือแต่ละสกุลเงินมันจะมีบุคลิกเฉพาะตัวของมัน ทองคำก็มีบุคลิกหนึ่ง บิทคอยน์ก็มีอีกบุคลิกหนึ่ง บุคลิกของสินค้าแต่ละตัวมันก็มาจากสภาพเศรษฐกิจของสกุลเงินนั้นๆ หากเราไม่เข้าใจทั้งเรื่องกลไกของตลาด และ บุคลิกของสินค้าที่เทรด การเทรดของเรามันก็จะไม่มีหลักการ มันก็คล้ายการพนันดีๆนี่เอง หากจะเป็นนายพรานเดินป่าล่าสัตว์มืออาชีพก็จำเป็นต้องเรียนรู้ถึงป่าแต่ละแบบต้องรู้ลึกรู้จริงถึงสภาพป่าแต่ละแบบให้ดีก่อนจะเข้าป่า
ปัจจัยสำคัญในการเทรดลำดับต่อมาก็คือ การบริหารจัดการพอร์ตการลงทุน นั้นคือทำอย่างไรที่จะไม่ให้เงินที่ลงทุนที่มีต้องสูญหายไปจากความผิดพลาดในการเทรด และทำอย่างไรที่จะให้พอร์ตการลงทุนมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว นั้นก็คือการใช้การจำกัดความเสี่ยงให้ดีที่สุดในการเทรด หากเราสามารถจำกัดความเสี่ยงได้ดีมากๆกำไรมันก็จะตามมาเอง แต่เมื่อไหร่ที่เรามองการจัดการกำไรเป็นหลัก (ซึ่งเราไม่สามารถบริหารกำไรได้อยู่แล้ว) เราก็จะเกิดความเสี่ยงขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เพราะเราเทรดด้วยความโลภ การทำตามลำดับความสำคัญนี้ก็เพื่อให้เราสามารถอยู่รอดในวงการเทรดได้ยาวนานเพื่อให้มีโอกาสได้ทำกำไรได้นานๆ หากเป็นพรานล่าสัตว์มืออาชีพก็ต้องมีวิธีเอาชีวิตรอดในป่าได้ดีในทุกๆเหตุการณ์
และลำดับต่อมาก็คือพฤติกรรม หรือ บุคลิกของสินค้าที่เทรด ตามที่กล่าวมาแล้วว่าสินค้าแต่ละตัวมันมีบุคลิกเฉพาะตัวของมันเอง หากเราไม่เข้าใจโอกาสที่จะพลาดก็มีสูง แต่หากเราเข้าใจเราก็จะมองเห็นโอกาสของการเข้าทำกำไรตามช่วงเวลาที่เหมาะสมได้ และรู้ว่าจังหวะไหนควรเลี่ยง จังหวะไหนควรเข้าเทรด สำหรับสินค้านั้นๆ หากเป็นนายพรานล่าสัตว์มืออาชีพก็จะรู้ได้ว่าสัตว์แต่ละชนิดจะต้องใช้วิธีล่ายังไงให้ได้ผลดี
เมื่อเข้าใจลำดับทั้งสามส่วนดีแล้วเท่ากับว่าเรามีโอกาสที่จะเทรดแล้วเกิดความเสี่ยงที่ต่ำลงไปมาก ที่เหลือก็แค่หาสัญญาณมาช่วยยืนยันในการเตรียมการเข้าออเดอร์เท่านั้น จะเห็นได้ว่าการเข้าออเดอร์ตามสัญญาณนั้น มันจะต้องอ้างอิงมาจากเหตุผลทั้งสามส่วนข้างต้นที่กล่าวมาเท่านั้น จึงจะถือได้ว่าเป็นการเทรดที่มีประสิทธิภาพจริง ไม่ใช่แค่รอดูสัญญาณปรากฎอย่างเดียว แบบนั้นมันการพนันดีๆนี่เอง
เกริ่นมาเสียยาวก็เพื่อให้ท่านได้มองเห็นกลไกความสำคัญของงานเทรดให้ดีเสียก่อนเพื่อไม่ให้หลงทาง หรือ เข้าเทรดด้วยความประมาท เข้าเทรดด้วยความไม่รู้ตลาดไม่รู้สินค้า มันเสี่ยงมาก คราวนี้เรามาเจาะลึกในเรื่องของสัญญาณ Repaint และ Non Repaint กันว่าเราจะใช้งานสัญญาณเหล่านี้ในการทำกำไรได้อย่างไร
Login เพื่ออ่านต่อ...
เนื้อหาทั้งหมดของบทเรียนนี้ ทั้งบทความ ,วีดิโอ ,ไฟล์ PDF เข้าดูได้เฉพาะสมาชิกของ Sniper-III+คอร์ส เท่านั้น โดยการ Login เข้าสู่ระบบเพื่อเข้าห้องเรียนในบทต่างๆ
หากยังไม่เป็นสมาชิก
คลิ๊กที่นี่เพื่อสมัครเข้าคอร์สเรียนพร้อมรับระบบเทรด Sniper-III